FOR CHRISTMAS

Dear Santa

Dear Santa, I’m fine and how have you been?

I feel it’s about time to write you again.

Our town has become a bright Christmas scene,

With everything sparkling of crisp red and green

Hurry Christmas

Hurry Christmas! How you creep,I’ve some presents I can’t keep,Just this morning I forgot,

And told baby what I’d bought.

All he answered was, “Goo goo!”So I don’t think that he knew,I told mamma hers was white,

And she’d wear it every night.

That she’d need it getting tea.Then my mamma smiled at me,And she whispered, “Isn’t May

Letting secrets fly away?”

MERRY CHRISTMAS!! :D

The Group of Eight

The Group of Eight (G8, and formerly the G6 or Group of Six then G7) is a forum, created by France in 1975,for the governments of seven major economies:Canada, France, Germany, Italy, Japan, the United Kingdom, and the United States. In 1997, the group added Russia, thus becoming the G8. In addition, the European Union is represented within the G8, but cannot host or chair. "G8" can refer to the member states or to the annual summit meeting of the G8 heads of government. The former term, G6, is now frequently applied to the six most populous countries within the European Union. G8 ministers also meet throughout the year, such as the G7/8 finance ministers (who meet four times a year), G8 foreign ministers, or G8 environment ministers.

Collectively, the G8 nations comprise 53.0% of global nominal GDP and 42.5% of global GDP (PPP). Each calendar year, the responsibility of hosting the G8 rotates through the member states in the following order: France, United States, United Kingdom, Russia, Germany, Japan, Italy, and Canada. The holder of the presidencysets the agenda, hosts the summit for that year, and determines which ministerial meetings will take place. Lately, both France and the United Kingdom have expressed a desire to expand the group to include five developing countries, referred to as the Outreach Five (O5) or the Plus Five: Brazil, People's Republic of China,India, Mexico, and South Africa. These countries have participated as guests in previous meetings, which are sometimes called G8+5.

With the G-20 major economies growing in stature since the 2008 Washington summit, world leaders from the group announced at their Pittsburgh summit on September 25, 2009, that the group will replace the G8 as the main economic council of wealthy nations.

9 เทคนิค ฝึกสมองไบรท์

1. จิบน้ำบ่อย ๆ
สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์ สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ

2. กินไขมันดี
คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวันจำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น

3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที
หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ (ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน

4. ใส่ความตั้งใจ
การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน

5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ
ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไป เรื่อยๆ

6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน
สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่าน หนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆเมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์

7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน
ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง

8. เขียนบันทึก Graceful Journal
ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

9. ฝึกหายใจลึก ๆ

สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออก ชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆจึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆอาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %

การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม

Thanksgiving Day

Thanksgiving Day is an annual holiday celebrating the harvest and other blessings of the past year. Thanks are traditionally directed towards God, accompanied with feasting and prayer.Thanksgiving is a legal holiday celebrated each year on the second Monday of October in Canada and on the fourth Thursday of November in the United States. In Canada, Thanksgiving falls on the same day as Columbus Day in the United States. Because of the longstanding traditions of the holiday, the celebration often extends to the weekend that falls closest to the day it is celebrated

ประชากรโลก คนที่ 7,000 ล้าน

ทั่วโลกเฉลิมฉลองที่โลกมีประชากรครบ 7,000 ล้านคนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีการจัดงานอย่างหรูสำหรับทารกแรกเกิดคนที่ 7,000 ล้าน ท่ามกลางคำเตือนว่า การที่โลกมีประชากรมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ

ขณะที่นักประชากรศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่า ช่วงเวลาใดที่ประชากรโลกจะแตะที่ระดับ 7,000 ล้านคน แต่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ใช้วันจันทร์ (31 ต.ค.) เป็นสัญลักษณ์ของวันที่ประชากรโลกครบ 7,000 ล้านคน กระนั้นทั่วโลกก็จัดงานฉลองประชากรครบ 7,000 ล้านคน

โดยการฉลองดังกล่าวเริ่มขึ้นในฟิลิปปินส์ ซึ่งทารกเพศหญิงชื่อดานิกา เมย์ คามาโช น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นที่โรงพยาบาลโฮเซ่ ฟาเบลลา เมโมเรียล ในกรุงมะนิลา แต่เธอเกิดก่อนเที่ยงคืนวันอาทิตย์ 2 นาที อย่างไรก็ตาม แพทย์ที่ทำคลอด ได้เลือกที่จะให้หนูน้อยเกิดวันจันทร์

ทั้งนี้ ทารกได้ของขวัญมากมาย รวมทั้งเค้กช็อกโกแลต ที่มีข้อความ 7บี ฟิลิปปินส์ ซึ่งหมายถึงประชากรคนที่ 7,000 ล้านของโลกอยู่ในฟิลิปปินส์ พร้อมได้รับการประกาศให้เป็นหนึ่งในประชากรคนที่ 7,000 ล้านของโลก นอกจากนี้ ยังมีทุนการศึกษาสำหรับเด็กผู้หญิงและเงินยังชีพเพื่อให้พ่อแม่ของเธอไปลงทุนเปิดร้านขายของชำ

ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่จัดงานฉลองประชากรคนที่ 7,000 ล้านของโลก เช่น แซมเบีย เวียดนาม รัสเซีย ไอวอรีโคสต์ ปาปัวนิวกินี บังกลาเทศ กัมพูชา อินเดีย ลาว และมัลดีฟส์ แต่ฟิลิปปินส์กลายเป็นประเทศแรกของโลกที่ประกาศทารกคนที่ 7,000 ล้าน ขณะที่ นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติบอกว่า ทารกคนที่ 7,000 ล้านจะเข้าสู่โลกที่มีความแตกต่าง โดยเฉพาะเด็กที่เกิดในเขตที่มีความยากจน

สหประชาชาติประเมินว่า ประชากรโลกจะแตะที่ระดับ 8,000 ล้านคนในปี 2568 และเพิ่มเป็น 10,000 ล้านคนในปี 2626 แต่ตัวเลขดังกล่าวอาจสูงกว่านี้ ขึ้นอยู่กับสิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่อายุขัย ไปจนถึงการคุมกำเนิด และอัตราการเสียชีวิตของทารก ขณะที่จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากสุดของโลกกว่า 1,300 ล้านคน รองลงมาเป็นอินเดียที่มีประชากรทะลุหลักพันล้านคนแล้ว.

ประโยคปวดใจ

ประโยคบอกเลิกที่พูดบ่อย!!!!!!
1. "เราต่างกันเกินไป"

(ทำไม!? เธอเป็นมนุษย์ต่างดาวรึไง?)

2. "เราไปด้วยกันไม่ได้หรอก"

(แล้วทำไมเมื่อก่อนตามติดแจ เป็นตุ๊กแกติดฝาบ้านเลยอ่ะ??)

3. "ยังมีคนอื่นที่ดีกว่าฉันนะ"
(ฉิบหาย! แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก)

4. "เธอยังไม่ใช่"

(ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าเราใช่ที่สุด เราจำได้)

5. "เธอไม่ใช่คนนั้น"

(อ้าว! แล้วเราเป็นใครวะเนี่ย?)

6. "ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะ"

(ไม่ต้อง... เธอเอาทุกสิ่งทุกอย่างมาคืนเราก็พอ)

7. "ฉันอยากมีพี่ชาย(น้องสาว)"

(แต่เราไม่อยากมีญาติเพิ่ม!!)

8. "มันสายไปแล้วล่ะ"

(ทีหลังก็หัดพกนาฬิกาบ้างนะ)

9. "เราจบกันแค่นี้นะ"

(อย่ากลับมาต่อภาค2กะเราอีกนะ!!)

10. "เธอเป็นคนดีเกินไป"

(ทำไมไม่ไปจีบโจรภาคใต้ซะเลยล่ะ!!!!)

11. "เธอก็น่าจะรู้"

(ไม่ใช่ X-MEN จะได้มีพลังจิตอ่านใจคนได้)

12. "เธอไม่เข้าใจฉัน"

(จะด่าว่าเราโง่งั้นสิ)

13. "เราเป็นแค่เพื่อนกันดีกว่านะ"

(เพื่อเรานิสัยดีกว่าเธอเยอะ!!!!)

14. "เธอตัดใจซะเถอะ"

(นี่ใจนะไม่ใช่กระดาษ A4)

15. "เราเหมือนเส้นขนานกัน"

(งั้นเราจะชิ่งขึ้นทางด่วน)

16. "นึกถึงความจริงบ้างสิ"

(แล้วนี่เราฝันอยู่รึไง)

Halloween

Halloween (or Hallowe'en), a contraction of All-Hallows-Even ("evening"), is an annual holiday observed onOctober 31, which commonly includes activities such as trick-or-treating, attending costume parties, carvingjack-o'-lanterns, bonfires, apple bobbing, visiting haunted attractions, playing pranks, telling scary stories, and watching horror films.

History

Historian Nicholas Rogers, exploring the origins of Halloween, notes that while "some folklorists have detected its origins in the Roman feast of Pomona, the goddess of fruits and seeds, or in the festival of the dead calledParentalia, it is more typically linked to the Celtic festival of Samhain (pronounced sow-an or sow-in)", derived from the Old Irish Samuin meaning "summer's end". Samhain was the first and by far the most important of the four quarter days in the medieval Irish calendar and, falling on the last day of Autumn, it was a time for stock-taking and preparation for the cold winter months ahead.There was also a sense that this was the time of year when the physical and supernatural worlds were closest and magical things could happen. To ward off these spirits, the Irish built huge, symbolically regenerative bonfires and invoked the help of the gods through animal and perhaps even human sacrifice.

Halloween is also thought to have been heavily influenced by the Christian holy days of All Saints' Day (also known as Hallowmas, All Hallows, Hallowtide) and All Souls' Day. Falling on November 1st and 2nd respectively, collectively they were a time for honoring the Saints and praying for the recently departed who had yet to reach heaven. By the end of the 12th century they had become days of holy obligation across Europe and involved such traditions as ringing bells for the souls in purgatory and "souling", the custom of baking bread or soul cakes for "all crysten [christened] souls".

In Britain the rituals of Hallowtide and Halloween came under attack during the Reformation as protestantsdenounced purgatory as a "popish" doctrine incompatible with the notion of predestination. In addition the increasing popularity of Guy Fawkes Night from 1605 on saw Halloween become eclipsed in Britain with the notable exception of Scotland.Here, and in Ireland, they had been celebrating Samhain and Halloween since the early Middle Ages, and it is believed the Kirk took a more pragmatic approach towards Halloween, viewing it as important to the life cycle and rites of passage of local communities and thus ensuring its survival in the country.

North American almanacs of the late eighteenth and early nineteenth century give no indication that Halloween was recognized as a holiday. The Puritansof New England, for example, maintained strong opposition to the holiday and it was not until the mass Irish and Scottish immigration during the 19th century that the holiday was introduced to the continent in earnest. Initially confined to the immigrant communities during the mid-nineteenth century, it was gradually assimilated into mainstream society and by the first decade of the twentieth century it was being celebrated coast to coast by people of all social, racial and religious backgrounds.

Symbols

Development of artifacts and symbols associated with Halloween formed over time. For instance, the carving of jack-o'-lanterns springs from the souling custom of carving turnips into lanterns as a way of remembering the souls held in purgatory. The turnip has traditionally been used in Ireland and Scotland at Halloween, but immigrants to North America used the native pumpkin, which are both readily available and much larger – making them easier to carve than turnips. The American tradition of carving pumpkins is recorded in 1837 and was originally associated with harvest time in general, not becoming specifically associated with Halloween until the mid-to-late 19th century.

Symbols

The imagery of Halloween is derived from many sources, including national customs, works of Gothic and horror literature (such as the novels Frankenstein and Dracula), and classic horror films (such as Frankenstein and The Mummy).Among the earliest works on the subject of Halloween is from Scottish poet John Mayne in 1780, who made note of pranks at Halloween; "What fearfu' pranks ensue!", as well as the supernatural associated with the night, "Bogies" (ghosts), influencing Robert Burns' Halloween 1785. Elements of the autumn season, such as pumpkins, corn husks, andscarecrows, are also prevalent. Homes are often decorated with these types of symbols around Halloween.

Halloween imagery includes themes of death, evil, the occult, or mythical monsters.^[18] Black and orange are the holiday's traditional colors.

21สิ่งท้าทายทำให้ได้ก่อนอายุ21

1.ตะลอนทัวร์กับเพื่อนซี้

2.เล่นดนตรีให้เป็นสักชิ้น

3.เปลือยกายในสายน้ำ

4.เก็บเงินให้ได้พันเหรียญขึ้นไป

5.รอบรู้เรื่องปู่ย่า

6.ซื้อล็อตเตอรี่สักใบ

7.ดันให้ตัวเองชนะการประกวดสักอย่าง

8.บอกรักใครสักคน

9.หัดขับรถเกียร์กระปุก

10.รีดนมวัว

11.ให้อภัยใครสักคน

12.ให้หมอดูทำนายทายทัก

13.ชวนเพื่อนไปไดร์ฟอิน-เธียเตอร์

14.ให้สองมือนี้ได้สักผ้า

15.ขี่ม้า

16.บริจาคเดรสแสนสวย

17.ไปเที่ยวทะเล

18.เป็นสาวเสิร์ฟดูสักครั้ง

19.ตามไปดู'ที่สุดในโลก'

20.ไปต่างประเทศ

21.เรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเอง

Marie Antoinette

Marie Antoinette ; baptised Maria Antonia Josepha Johanna (or Maria Antonia Josephina Johanna); 2 November 1755 – 16 October 1793) was anArchduchess of Austria and the Queen of France and of Navarre. She was the fifteenth and penultimate child of Empress Maria Theresa of Austria andEmperor Francis I.

In April 1770, on the day of her marriage to Louis-Auguste, Dauphin of France, she subsequently became Dauphine of France. Marie Antoinette assumed the title of Queen of France and of Navarre when her husband, Louis XVI of France, ascended the throne upon the death of Louis XV in May 1774. After seven years of marriage, she gave birth to a daughter, Marie-Thérèse Charlotte, the first of four children.

Initially charmed by her personality and beauty, the French people generally came to dislike her, accusing "the Austrian" of being profligate and promiscuous, and of harboring sympathies for France's enemies, particularly Austria, since Marie Antoinette was, after all, Austrian.

At the height of the French Revolution, Louis XVI was deposed and the monarchy abolished on 10 August 1792; the royal family was subsequently imprisoned at the Temple Prison. Nine months after her husband's execution, Marie Antoinette was herself tried, convicted of treason, and executed byguillotine on 16 October 1793.

Even after her death, Marie Antoinette is often considered to be a part of popular culture and a major historical figure, being the subject of several books, films and other forms of media. Some academics and scholars have deemed her frivolous and superficial, and have attributed the start of the French Revolution to her; however, others have claimed that she was treated unjustly and that views of her ought be more sympathetic.

Steve Jobs

Steven Paul "Steve" Jobs (February 24, 1955 – October 5, 2011) was an Americancomputer entrepreneur and innovator. He was co-founder, chairman, and chief executive officer of Apple Inc. Jobs also previously served as chief executive of Pixar Animation Studios; he became a member of the board of directors of The Walt Disney Company in 2006, following the acquisition of Pixar by Disney.

In the late 1970s, Jobs—along with Apple co-founder Steve Wozniak, Mike Markkula and others—designed, developed, and marketed one of the first commercially successful lines of personal computers, the Apple II series. In the early 1980s, Jobs was among the first to see the commercial potential of Xerox PARC's mouse-driven graphical user interface, which led to the creation of the Macintosh. After losing a power struggle with the board of directors in 1985, Jobs resigned from Apple and founded NeXT, a computer platform development company specializing in the higher-education and business markets. Apple's subsequent 1996 buyout of NeXT brought Jobs back to the company he co-founded, and he served as its interim CEO from 1997, then becoming permanent CEO from 2000 onwards. After resigning as CEO in August 2011, Jobs was elected chairman of Apple's board of directors and held that title until his death.

In 1986, he acquired the computer graphics division of Lucasfilm Ltd, which was spun off asPixar Animation Studios. He was credited in Toy Story (1995) as an executive producer.He remained CEO and majority shareholder at 50.1 percent until its acquisition by The Walt Disney Company in 2006. Consequently Jobs became Disney's largest individual shareholder at 7 percent and a member of Disney's Board of Directors.

On October 5, 2011, Jobs died in California at age 56, seven years after being diagnosed withpancreatic cancer.

เทศกาลกินเจ

เทศกาลกินเจ (จีน: 九皇爺; อังกฤษ: Nine Emperor Gods Festival) หรือบางแห่งเรียกว่า ประเพณีถือศีลกินผัก^[1] เป็นประเพณีแบบลัทธิเต๋ารวม 9 วัน กำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนของทุกปี มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนมานานแล้ว โดยมีตำนานเล่าขานกันหลายตำนาน ปัจจุบัน เทศกาลกินเจจัดขึ้นในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ตลอดจนหมู่เกาะรีออในอินโดนีเซีย ซึ่งการกินเจในเดือน 9 นี้ เชื่อกันว่าน่าจะเกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2170 ตรงกับสมัยอาณาจักรอยุธยา

จุดประสงค์ของการกินเจ

ผู้ที่กินเจอาจจะมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์หลักสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้

1. กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ
2. กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงามย่อมไม่อาจกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้นซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจและที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา
3. กินเพื่อเว้นกรรม ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่าเพื่อเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นของเราเป็นการสร้างกรรม แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่าเพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย กรรมที่สร้างนี้จะติดตามสนองเราในไม่ช้าทำให้สุขภาพร่างกายอายุขัยของเราสั้นลงเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อผู้หยั่งรู้เรื่องกฎแห่งกรรมนี้จึงหยุดกินหยุดฆ่าหันมารับประทานอาหารเจ ซึ่งทำให้ร่างกายเติบโตได้เหมือนกัน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น

The Muppets

The Muppets are a group ofpuppet characters created by Jim Henson starting in 1954–55. Although the term is often used to refer to anypuppet that resembles the distinc

tive style of The Muppet Show, the term is both an informal name and legal trademark owned by the Walt Disney Company in reference to the original characters created by Henson.

The word "Muppet" itself first appeared in 1956, and was said by Henson to have been created by combining the words "Marionette" and "puppet". However, Jim Henson was also known to have stated that it was just something he liked the sound of, and he made up the "marionette/puppet" story while talking to a journalist because it sounded plausible.

After earlier unsuccessful attempts, The Walt Disney Company bought the Muppets in 2004. Exceptions include characters appearing on Sesame Street (as they were previously sold to Sesame Workshop, although they have always had creative rights, only paying The Jim Henson Company to create and provide their Muppet characters for their use) and the Fraggles of Fraggle Rock (which are still owned byThe Jim Henson Company). The legal trademark on the term "Muppet" is currently held by The Muppets Studio, a division of The Walt Disney Company, although Sesame Workshop and The Jim Henson Company continue to use the term on their characters with certain permissions from Disney.

A new eponymous movie written by Jason Segel and Nicholas Stoller and directed by James Bobin is due for theatrical release in November, 2011. This will be the first Muppet theatrical film since Muppets from Space from 1999.

The Muppets' latest television special, A Muppets Christmas: Letters to Santa, premiered on NBC on December 17, 2008. It was released on DVD on September 29, 2009. A Halloween TV special featuring the Muppets was expected to air onABC in October 2010, but was shelved due to the upcoming film.

Nelson Rolihlahla Mandela

Nelson Rolihlahla Mandela was born in Transkei, South Africa on July 18, 1918. His father was Chief Henry Mandela of the Tembu Tribe. Mandela himself was educated at University College of Fort Hare and the University of Witwatersrand and qualified in law in 1942. He joined the African National Congress in 1944 and was engaged in resistance against the ruling National Party's apartheid policies after 1948. He went on trial for treason in 1956-1961 and was acquitted in 1961.

After the banning of the ANC in 1960, Nelson Mandela argued for the setting up of a military wing within the ANC. In June 1961, the ANC executive considered his proposal on the use of violent tactics and agreed that those members who wished to involve themselves in Mandela's campaign would not be stopped from doing so by the ANC. This led to the formation of Umkhonto we Sizwe. Mandela was arrested in 1962 and sentenced to five years' imprisonment with hard labour. In 1963, when many fellow leaders of the ANC and the Umkhonto we Sizwe were arrested, Mandela was brought to stand trial with them for plotting to overthrow the government by violence. His statement from the dock received considerable international publicity. On June 12, 1964, eight of the accused, including Mandela, were sentenced to life imprisonment. From 1964 to 1982, he was incarcerated at Robben Island Prison, off Cape Town; thereafter, he was at Pollsmoor Prison, nearby on the mainland.

During his years in prison, Nelson Mandela's reputation grew steadily. He was widely accepted as the most significant black leader in South Africa and became a potent symbol of resistance as the anti-apartheid movement gathered strength. He consistently refused to compromise his political position to obtain his freedom.

Nelson Mandela was released on February 11, 1990. After his release, he plunged himself wholeheartedly into his life's work, striving to attain the goals he and others had set out almost four decades earlier. In 1991, at the first national conference of the ANC held inside South Africa after the organization had been banned in 1960, Mandela was elected President of the ANC while his lifelong friend and colleague, Oliver Tambo, became the organisation's National Chairperson.

From Les Prix Nobel. The Nobel Prizes 1993, Editor Tore Frängsmyr, [Nobel Foundation], Stockholm, 1994

This autobiography/biography was written at the time of the award and later published in the book seriesLes Prix Nobel/Nobel Lectures. The information is sometimes updated with an addendum submitted by the Laureate.