วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

อย่าลืมสิ่งเหล่านี้

ทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน.......อย่าลืมคิดถึงสิ่งที่ต้องใช้ในชีวิตประจำเหล่านี้

1. เครื่องประดับที่สวยที่สุดบนเรือนร่าง คือ รอยยิ้ม
2. งานที่ทำแล้วพอใจที่สุด คือ การช่วยเหลือผู้อื่น
3. ความสุขที่สุด คือ การให้
4. อาวุธร้ายแรงที่ต้องระมัดระวัง และเก็บรักษาให้ดีที่สุด คือ การพูดทำร้ายผู้อื่น
5. พลังยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทำให้ทุกอย่างสำเร็จ คือ ความรัก
6. ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การทำร้ายตัวเอง
7. ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่จะต้องเอาชนะให้ได้ คือ ความกลัว
8. ยา นอนหลับที่ให้ผลดีที่สุด คือ ความสงบในใจ

วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

10 อันดับคณะที่ตกสอบสัมภาษณ์มากที่สุด ของรับตรง 53 ม.ธรรมศาสตร์

อันดับ 10 คณะรัฐศาสตร์ ยอดฮิตของรั้วแม่โดมต้องคณะนี้เลย คนที่มาสัมภาษณ์คณะนี้ต้องแม่นการเมืองพอสมควร โดยรับตรงปีก่อนเข้ารอบมา 170 คน แต่สามารถชนะใจกรรมการไปได้เพียง 161 คนเท่านั้น สรุปถูกคัดออกไป 9 คน

อันดับ 9 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ถูกขนานนามว่าเป็นคณะที่เต็มไปด้วยหนุ่มใจดี สาวใจบุญ แต่ดูเหมือนอาจารย์สอบสัมภาษณ์คณะนี้จะไม่ใจดีเท่าไหร่ เพราะรับตรงปีที่ผ่านมา คัดออกรอบสัมภาษณ์ไปถึง 23 คนจาก 146 คน เหลือ 123 คนเท่านั้น

อันดับ 8 คณะศิลปกรรมศาสตร์ เด่นสุดๆ เรื่องการละคอน และออกแบบ ที่สำคัญน้องๆ ที่มาสอบสัมภาษณ์คณะนี้แฟ้มผลงานต้องเด็ดสะระตี่มากๆ ด้วย ไม่งั้นอาจไม่ได้ไปต่อ ดูจากปีที่แล้วที่ถูกตัดคัดออกไปถึง 25 คน กรี๊ดๆๆ


อันดับ 7 คณะนิติศาสตร์ เรียกได้ว่าเป็นคณะขั้นเทพที่หลายคนขนาดนามว่าสอบสัมภาษณ์โหดสุดๆ พูดต้องรู้เรื่อง เหตุการณ์บ้านเมืองต้องรู้ ปีที่แล้วผ่านข้อเขียนมา 371 คน แต่ได้ไปต่อเพียง 337 คนเท่านั้น หรือมีผู้ตกสัมภาษณ์ไป 34 คนนั้นเอง

อันดับ 6 คณะสาธารณสุขศาสตร์ น้องๆ สายวิทย์ที่อยากเรียนคณะนี้เตรียมหนาวได้เลย เพราะถึงแม้คณะนี้จะไม่มีวิชาเอกในตอนรับ แต่ก็คัดออกมากที่สุดเป็นอันดับ 6 โดยปีที่แล้วมีคนเข้าไปสอบสัมภาษณ์ 122 คน แต่ผ่านแค่ 69 คนเท่านั้น !!

อันดับ 5 คณะสหเวชศาสตร์ มาแรงตีคู่มาพร้อมกับคณะอันดับก่อนหน้าทุกปี แต่ปีนี้คณะสหเวชศาสตร์ขอมามาดโหดกว่า ปรับตกเด็กที่มาสอบสัมภาษณ์ไปถึง 67 คน จากทั้งหมด 107 คน งานนี้สาขากายภาพบำบัดมาวินถูกปรับตกเยอะที่สุด

อันดับ 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี อกอีแป้นจะแตกที่ได้ยินชื่อคณะนี้ เพราะเป็นคณะที่หลายถวายหัวเพื่อแลกกับการเข้าไปเรียน สำหรับคณะนี้มีรุ่นพี่หลายคนแอบบอกมาว่า กรรมการสัมภาษณ์บางปีมีตั้ง 5 คน มิน่าล่ะปีที่แล้วมีเด็กตกสัมภาษณ์คณะนี้ไปถึง 69 คน โอ้ๆ จะเป็นลม - -"

อันดับ 3 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และผังเมือง เด็กแอดมิชชั่น 54 ที่จะไปสอบสัมภาษณ์รับตรงคณะนี้ เตรียมแฟ้มผลงานใหญ่ไปได้เลย เคยวาดอะไร ออกแบบสิ่งไหน ขนไปให้หมด เพราะแล้วกรรมการท่าจะโหดพอสมควร ถึงปรับตกสัมภาษณ์ไปถึง94 คน จ๊ากๆๆ

อันดับ 2 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะนี้ดาวสวย เดือนหล่อทุกปี แต่อาจารย์ประจำคณะก็แอบเชือดนิ่มๆ นะเนี่ย เพราะปีที่แล้วปรับตกสัมภาษณ์ไปสูงถึง 128 คนจาก 250 คน ซึ่งสาเหตุที่ยอดสูงแบบนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเป็นคณะที่มีสาขาเยอะแยกย่อย ซึ่งสาขาที่มาวินตกเยอะที่สุดคือ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร

อันดับ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ อยากรู้จังว่าคณะนี้กรรมการสอบสัมภาษณ์คณะนี้ถามอะไรบ้างนะ ปีที่แล้วถึงตกเหวสอบสัมภาษณ์ไปถึง 139 คน (โอ้มายก๊อต) และนับเป็นคณะที่มียอดตกสูงที่สุดในการรับตรงของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเท่าที่ไปแอบสืบจากรุ่นพี่ๆ คณะนี้มาก็ล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “แฟ้มโดน พูดดี บุคลิกเด่น” ถึงจะรอดคร๊าบ



อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/content/admissions/21559/10-คณะที่ตกสัมภาษณ์มากที่สุด-ของรับตรง-มธ.รับตรง-54.php#ixzz15gmcUzQ3

วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความเป็นจริงของชีวิต.....







วัยรุ่น : มีเวลา + มีกำลัง... แต่ไม่มีเงิน

วัยทำงาน : มีเงิน +มีกำลัง....แต่ไม่มีเวลา

วัยชรา : มีเวลา +มีเงิน....แต่ไม่มีกำลัง

จงทำแต่พอดี.....ในตอนที่ยังมี กำลัง

อย่าโหมงานหนักจน.....ไม่มี เวลา

แม้จะได้ เงิน มา....แต่อาจไม่ได้ใช้

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คำของปราชญ์จีน‏‏


" ชมคนด้วยวาจา...มีค่ายิ่งกว่ามอบไข่มุกให้เป็นของขวัญ
ทำร้ายคนด้วยวาจา...สาหัสยิ่งกว่าทิ่มแทงด้วยหอกดาบ.."
"ซุนวู"


" คนอื่นช่วยเรา...เราจะจำไว้ชั่วชีวิต
เราช่วยคนอื่น...จงอย่าจำใส่ใจ "
"ฮั่วหลัวเกิง"


" มีชีวิตอย่างไร้คุณธรรม
มิสู้ตายอย่างมีคุณธรรม
ได้มาด้วยความคดโกง
มิสู้ยอมเสียอย่างซื่อตรง..."
"หวังติ้งเป่า"


" น้ำใสสะอาดเกินไป...ย่อมไร้ซึ่งมัจฉา
คนที่เข้มงวดเกินไป......ย่อมไร้ซึ่งบริวาร "
"ปันกู้"


" ความไม่พอใจ...ความกลัดกลุ้มหงุดหงิด
ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราฮึดสู้มากยิ่งขึ้น
ไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้ ..ห่อเหี่ยวยอมจำนน
ต่ออุปสรรค์..."
"หลี่ต้าเจา"


" ในชีวิตของเรา..มิตรภาพเปรียบเสมือนโคมส่องสว่าง
ดวงหนึ่ง....ซึ่งสาดส่องจิตวิญญาณของเราให้สว่างไสว
ทำให้ชีวิตของเรามีแสงสีอันงดงาม.."
"ปาจิน"

๗.
" ตัวสกปรกก็คิดจะอาบน้ำ เท้าสกปรกก็คิดจะล้างเท้า
แต่ใจสกปรก กลับไม่คิดที่จะชำระใจ..."
"หยางว่านหลี่"

๘.
" สุขสบายเกินไป..เส้นสายก็พลอยหย่อนยาน
จิตใจก็พลอยขลาดกลัว"
"หูหลินอี้"

๙.
" พูดน้อย กลุ้มน้อย ตัณหาน้อย นอนน้อย...
....ถ้าสี่อย่างนี้น้อย ก็ใกล้จะเป็นเซียนแล้ว"
"ซุนซือเหมี่ยว"

๑๐.
" คนที่เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป...
เป็นคนที่โดดเดี่ยวอ้างว้างที่สุด!"
"ลู่ซู"

๑๑.
" ไม่มีอะไรแย่เท่ากับควา มเย่อหยิ่งอวดดี....
ผู้ที่คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ คือ คนที่ดีพอ...
ผู้ที่คิดว่าตัวเองดีแล้ว คือ ผู้ที่ดีไม่พอ...!"
"ฟังเสี้ยวหยู"

๑๒.
" ต้องกล้าที่จะมองความจริง...
แม้ว่าความจริงอาจจะทำให้เราเจ็บปวดมากๆ"
"จางจื้อซิน"

๑๓.
" ความอิจฉา เป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพ...
ความระแวงสงสัย..เป็นศัตรูตัวร้ายกาจของความรัก...
...ความรักถ้าปราศจากความซื่อสัตย์จริงใจต่อกันเสียแล้ว
ก็ไม่อาจเชื่อถือซึ่งกันและกันได้"
"ซุนยาง"

๑๔
" ยามมีควรคิดถึงความจน...
....ยามจนไม่ควรคิดถึงยามมี..!"
"เจิงก่วงเสียนเหวิน"

๑๕
" อย่าทำความชั่ว เพราะคิดว่าผิดนิดเดียว...
อย่าละเว้นการทำความดี...
เพราะคิดว่าได้บุญกุศลแค่นิดเดียว..."
"เผยสงจือ"

๑๖
" รู้เหตุผลไม่อับจน รู้กาละไม่ถูกด่า รู้ประหยัดไม่ขัดสน "
"ซูลิน"

๑๗
" ใช้จิตใจที่ชอบตำหนิผู้อื่น...มาตำหนิตัวเอง.....
ใช้จิตใจที่ชอบให้อภัยตัวเอง...ให้อภัยผู้อื่น.."
"เจิงจิ้นเสียนเหวิน"

๑๘
" ขี้เกียจแล้วยังฟุ่มเฟือย...ย่อมยากจน
ขยันและประหยัด..ย่อมร่ำรวย.."
"ก่วนจ้ง"

๑๙
"…สูงส่งแต่ไม่เย่อหยิ่ง ชนะแต่ไม่ลำพอง
ปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที เข้มแข็งแต่มีความอดกลั้น.."
"ขงเบ้ง"

๒๐
"..ก่อนที่จะเอาชนะคนอื่น...จักต้องเอาชนะตัวเอง
ให้ได้เสียก่อน
ก่อนที่จะว่าคนอื่น...ควรพิจารณาดูตัวเองเสียก่อน
ก่อนหน้าที่จะรู้จักคนอื่น...ควรจะรู้จักตัวเองเสียก่อน.."
"หลี่ปุ๊เหว่ย"

๒๑
" ผู้ที่รู้จักคนอื่นเป็นคนฉลาด.....ผู้ที่รู้จักตัวเอง เป็นคนมีสติ.."
"เล่ าจื้อ"

๒๒
" การตกระกำลำบากเป็นมหาวิทยาลัยชั้นสูงในการฝึกฝนยอดคน..!!"
"เหลียงฉี่เชา"

๒๓
" สิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ ...จงอย่าทำกับคนอื่น.."
"ขงจื้อ"

๒๔.
" คนที่ทำได้อาจพูดไม่ได้...คนที่พูดได้อาจทำไม่ได้.!!"
"ซือหม่าเชียน"

๒๕.
" คนเราหนีไม่พ้นความตาย...แต่ความหมายการตายนั้น
ไม่เหมือนกัน...
บ้างมีค่าหนักกว่าขุนเขา...บ้างไร้ค่าเบากว่าขนนก...!"
"ซือหม่าเชียน"

ทนายสุรชัย

คัดลอกจาก " มติชนออนไลน์