วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ที่สุด(จังหวัด)ของประเทศไทย

-จังหวัดในประวัติศาสตร์ไทยที่มีชื่อเต็มยาวที่สุด และยังเป็นชื่อเมืองยาวที่สุดในโลก คือ กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์ ภายหลังจัดตั้งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528
-จังหวัดที่มีชื่อเต็มยาวที่สุดในประเทศไทย คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
-จังหวัดที่ตั้งขึ้นใหม่ที่สุด คือ จังหวัดบึงกาฬ ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2553 เป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย หรือเป็นจังหวัดที่ 76 ของประเทศไทย (หากไม่นับกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัด) * จังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุด คือ จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ 20,494.0 ตร.กม.
-จังหวัดที่มีพื้นที่น้อยที่สุด คือ จังหวัดสมุทรสงคราม มีพื้นที่ 416.707 ตร.กม.
-จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดอื่นมากที่สุด คือ จังหวัดตาก และจังหวัดขอนแก่น โดยจังหวัดตากมีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดต่างๆ 9 จังหวัดดังนี้ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และ จังหวัดลำปาง จังหวัดขอนแก่นมีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดต่างๆ 9 จังหวัดดังนี้ จังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเพชรบูรณ์
-จังหวัดที่มีระยะทางจากทิศเหนือถึงทิศใต้ยาวที่สุด คือ จังหวัดเชียงใหม่ จากอำเภอแม่อาย (ทิศเหนือ) ถึงอำเภออมก๋อย (ทิศใต้) มีระยะทางรวม 298 กิโลเมตร
-จังหวัดที่อำเภอปริมณฑลมากที่สุด คือ เชียงใหม่ ประกอบไปด้วย อำเภอสันทราย อำเภอหางดง อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอสารภี อำเภอสันป่าตอง อำเภอแม่ริม อำเภอแม่ออน อำเภอแม่วาง อำเภอแม่แตง และอำเภอจอมทอง ซึ่งทำให้นครเชียงใหม่รองจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปัจจุบัน
-จังหวัดที่มีอำเภอมากที่สุด คือ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 32 อำเภอ
-จังหวัดที่มีตำบลมากที่สุด คือ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 287 ตำบล
-จังหวัดที่มีเทศบาลมากที่สุด คือ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 114 เทศบาล
-จังหวัดที่มีอำเภอน้อยที่สุด คือ จังหวัดสมุทรสาคร,สมุทรสงคราม,ภูเก็ต จำนวน 3 อำเภอ
-จังหวัดที่มีอำเภอที่มีเขตติดต่อชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ทุกอำเภอ คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
-จังหวัดที่มีอำเภอที่มีเขตติดต่อกับทะเลด้านอ่าวไทยทุกอำเภอ คือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
-จังหวัดที่มีประชากรน้อยที่สุด คือ จังหวัดระนอง

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

ไขปริศนา สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า

นักวิทยาศาสตร์เจ๋ง!! ไขปริศนา สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ ทำให้เรือและเครื่องบินเสียการควบคุม
10 ส.ค.นักวิทยาศาสตร์ สามารถไขความลับสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ที่ก่อนหน้านี้เป็นปมปริศนาที่มันสามารถดูดกลืนเรือและเครื่องบินที่ผ่านบริเวณนั้นจนหายสาปสูญ จนมีผู้กล่าวขานสามเหลี่ยมดังกล่าวว่า สามเหลี่ยมผีสิง ที่จำนำพาไปสู่อีกมิติ
ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ การก่อตัวของก๊าซธรรมชาติ โดยเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ ทำให้เรือและเครื่องบินเสียการควบคุม ก่อนที่จะจมดิ่งสู่สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ซึ่งศาสตราจารย์โจเซฟ โมนาแกน หนึ่งในสองผู้วิจัยงานศึกษาไขปริศนาดังกล่าว เสริมว่า บริเวณนั้น มีก๊าซมีเทนจำนวนมากปะทุเป็นฟองก๊าซขนาดใหญ่ แล้วแตกตัวเหนือบริเวณดังกล่าว
เมื่อก๊าซเหล่านี้ขึ้นสู่พื้นผิว มันจะทะยานสู่อากาศ และขยายตัวเป็นวงกว้าง แล้วก่อตัวเป็นฟองก๊าซขนาดยักษ์ หากเรือลำใดแล่นผ่านมายังบริเวณนั้น แน่นอนว่าเรือก็จะเข้าไปในฟองก๊าซมีเทนขนาดใหญ่ จนทำให้เรือเสียการควบคุม และจมสู่ทะเลในที่สุด
รายงานยังระบุว่า หากฟองก๊าซมีขนาดใหญ่มากๆ ครอบคลุมความหนาแน่นระดับสูงเพียงพอ ยังสามารถทำให้เครื่องบินที่อยู่บนน่านฟ้า เหนือสามเหลี่ยมฯ เสียการควบคุม และดิ่งสงสู่ทะเลอย่างรวดเร็ว

ชาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ

ชาสมุนไพรลดเซลลูไลท์เพื่อสุขภาพ (Instant Beverage Green tea Extract)

-เป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น ประกอบด้วยส่วนผสมของหัวชาชั้นดี และสมุนไพรที่คัดสรรแล้ว
-ช่วยในการเผาผลาญไขมันส่วนเกินให้เปลี่ยนรูปเป็นพลังงาน ทั้งยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนังไว้ไม่ให้เหี่ยวย่น
-ช่วยชดเชยการออกกำลังกาย (ไม่ใช่ทดแทน) ร่างกายเราจะมีปริมาณการเผาผลาญที่สูงขึ้น ลดปริมาณไขมันในเส้นเลือด
-ดื่มชาชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว จะเผาผลาญไขมันได้เท่ากับการวิ่งออกกำลังกาย 3 กิโล
-ช่วยลดส่วนเกินได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นไขมันหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา
-ช่วยลดเซลลูไลท์ที่อยู่บริเวณใต้คางหรือข้างแก้ม ทำให้หน้าเรียวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
-ช่วยการขับสารพิษ และสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างในร่างกาย และช่วยทำความสะอาดระบบภายใน
-ช่วยในกระบวนการกำจัดไขมันคอเรสเตอรอลในหลอดเลือดซึ่งทำให้ลดภาวะความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงจากการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด
-ช่วยในการขับสารพิษ และสารอนุมูลอิสระ จึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็งและโรคความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
-ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เนื่องจากมีผลในการกระตุ้นการทำงานระดับเซลล์
-ให้สารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ซึ่งมีประโยชน์ต่อขบวนการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและขับสารพิษตกค้างออกจากร่างกาย
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีสารพิษ หรืออนุมูลอิสระในร่างกายมาก ๆ เช่น ผู้ที่อยู่ในโปรแกรมการกำจัดไขมันหรือลดน้ำหนักหรือในผู้ที่ภาวะความเครียดจากการทำงาน
-ดื่มได้ทั้งร้อน และเย็น พร้อมอาหาร หรือระหว่างมื้ออาหาร หรือทุกเมื่อยามต้องการ

นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีอย.รับรอง 70 ประเทศทั่วโลก
*จดทะเบียน อย.ในหมวดอาหาร ไม่ใช่ยา สามารถรับประทานได้ไม่จำกัดปริมาณ ยิ่งทานในปริมาณมากยิ่งเห็นผลเร็วขึ้น
*หมายเลข อย ( อยู่ในหมวดอาหาร ) คือ 10-3-07839-1-0001

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

อาหาร2ชนิดที่ไม่ควรกินร่วมกัน




อาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน บางอย่างมีประโยชน์ บางอย่างไม่มีประโยชน์ แต่คุณ ทราบหรือไม่ว่า อาหารบางอย่างที่เราทานเข้าไปทุกวันๆ เราคิดว่ามีประโยนช์มากมายนั้น บางอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด มาดูดีกว่าว่ามีอาหารชนิดไหนบ้าง

1. เหล้าขาวกับลูกพลับ - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้เป็นพิษ
2. หัวไชเท้ากับเห็ดหูหนู ทั้งดำและขาว - ห้ามรับประทารด้วยกัน จะเป็นโรคผิวหนัง
3. เต้าหู้กับน้ำผึ้ง - ห้ามรับประทานด้วยกันจะทำให้หูหนวก
4. มันฝรั่งกับกล้วยทุกชนิด - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้หน้าเป็นฝ้า
5. กล้วยกับเผือก - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้ท้องอืด
6. ถั่วลิสงกับฟักทอง - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้ทำร้ายร่างกายและลำไส้อักเสบ
7. มันเทศกับลูกพลับ - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร
8. มันฝรั่งกับลูกพลับ - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้เป็นนิ่วในท่อปัสสาวะ
9. หัวไชเท้ากับผลไม้ทุกชนิด - ห้ามรับประทานรวมกัน จะทำให้เกิดคอพอก
10. น้ำเต้าหู้ นมสด - ห้ามใส่ไข่ เพราะจะทำให้ท้องผูกและเส้นเลือดตับ
11. ผักป๋วยเล้ง - ห้ามรับประทานกับเต้าหู้ จะทำให้เป็นนิ่วที่ไขสันหลัง
12. กล้วยมะละกอ แตงโม - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้เป็นโรคไตกับโรคเบาหวาน
13. ส้มกับมะนาว - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้กระเพาะทะลุ
14. เหล้าขาวกับเบียร์ - ห้ามรับประทานด้วยกัน จะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก
15. ปลาทุกชนิด - ห้ามต้มกับผักกาดดอง จะทำให้เป็นโรคมะเร็ง
16. ขิงดอง - ห้ามเข้าตู้เย็น กินแล้วจะเป็นโรค มะเร็ง
17. น้ำเต้าหู้ - ห้ามใส่น้ำตาลแดง จะทำให้เสียวิตามิน
18. น้ำข้าว - ห้ามใส่กับนม จะทำให้เสียวิตามิน
19. น้ำผึ้ง - ห้ามชงด้วยน้ำที่ร้อนจะทำให้เสียวิตามิน
20. บวบ ซือกวย ไชเท้า - ห้ามรับประทานวันเดียวกัน จะทำให้เป็นเบาหวาน
21. มังคุดกับน้ำตาล- กินร่วนกันจะทำให้เสียชีวิต