วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

9 วิธีแก้เมาเครื่องบิน

อาการเมาเครื่องบิน เป็นรูปแบบหนึ่งของการไม่สบายอันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหว เช่นเดียวกันกับการเมารถ เมาเรือ โดยมีสาเหตุมาจากระบบสมองส่วนกลางได้รับข้อมูลที่ขัดแย้งกันจากร่างกาย (หู , ตา ,กล้ามเนื้อ) ซึ่งส่งผลต่อระบบความสมดุลของร่างกาย

ถ้าคุณต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยครั้ง คุณอาจจะมีอาการเมาเครื่องบินเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนที่มีสุขภาพดีก็อาจจะมีอาการเมาเครื่องบินขึ้นมาได้

หากคุณต้องการป้องกันและรักษาอาการเมาเครื่องบินไม่ให้เกิดขึ้น เรามาดูรายละเอียดวิธีต่างๆกัน ดังนี้

1. เมื่อเริ่มรู้สึกเมาเครื่องบินให้นำลูกจันทน์เทศครึ่งหนึ่งอมไว้ใต้ลิ้น ลูกจันทน์เทศจะทำให้อาการคุณดีขึ้น การวางไว้ใต้ลิ้นจะช่วยให้ซึมเข้ากระแสเลือดได้เร็วขึ้น
2. ถ้าคุณมักจะอาเจียน เมื่อมีอาการเมาเครื่องบิน เมื่อขึ้นบนเครื่องแล้วให้คุณจิบน้ำขิง ซึ่งบนเครื่องบินส่วนใหญ่จะไม่มีน้ำขิง ให้คุณเตรียมมาด้วย (เป็นซองเหมือนชา) แล้วขอน้ำร้อนบนเครื่องบินจากแอร์โฮสเตส เพื่อชงน้ำขิง ถ้าหาน้ำขิงไม่ได้ คุณอาจจะใช้ขิงสดหั่นบางๆ

ขิงเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้

3. ห้ามรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือคาร์โบไฮเดรตสูง ก่อนขึ้นเครื่องบิน น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตจะไปกระตุ้นสารอาร์ดินาลีนของร่างกาย ทำให้เกิดอาการเมาเครื่องได้

การรับประทานอาหารก่อนขึ้นเครื่องบินควรเลือกอาหารประเภทที่ให้โปรตีน หรือ พวกผัก ที่ให้คาร์โบไฮเดรตต่ำ
4. ขอน้ำแข็งก้อน การดูดน้ำแข็งจะช่วยลดและเจือจางกรมในกระเพาะอาหาร

5. เมื่อจองตั๋วเครื่องบิน คุณควรเลือกที่นั่งติดกับหน้าต่าง การมองออกไปนอกหน้าต่างจะช่วยให้คุณผ่อนคลาย

แต่ถ้าคุณเป็นผู้ที่กลัวที่แคบ หรือกลัวความสูง ให้เลือกจองที่นั่งติดทางเดิน เพื่อที่คุณจะสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก

6. ณ ที่นั่งของคุณให้ดูว่าที่ระบายอากาศชี้มาตรงหน้าคุณหรือไม่ อ๊อกซิเจนพิเศษจะช่วยลดความรู้สึกคลื่นไส้
7. น้ำมันสะระแหน่ (Pepper Mint) ใช้สูดดม เพื่อช่วยลดอาการเมารถ และอาการคลื่นไส้ ควรพกติดตัวไปด้วย แต่ถ้าไม่มีก็ใช้เป็นเม็ดอมเป็บเปอร์มิ้นท์(สะระแหน่) แทน

8. เอาพลาสเตอร์ที่ปิดแผล หรือแผ่นแก้ปวด มาปิดที่สะดือ

9. กินชาหรือกาแฟแก่ๆ ร้อนๆ ซักแก้วขณะที่มีอาการเมา

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Golden Gate Bridge




"สะพานโกลเดนเกท-Golden Gate" ความหมายคือ "ประตูทอง" ต้อนรับผู้มุ่งมาซานฟรานซิสโก ทำสถิติเป็นสะพานแขวนแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเส้นทางสู่อ่าวซานฟรานซิสโก และเชื่อมระหว่างซานฟรานฯ กับมาริน เคาท์ตีสะพานทาสีแดงอมส้มสดตามสีสัญลักษณ์ของซานฟรานฯ ใช้งบประมาณในการสร้าง 35 ล้านดอลลาร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 5 มกราคม 1933 อันเป็นช่วงสมัยของประธานาธิบดีแฟรงกิน ดี. รูสเวลต์ มี โจเซฟ สเตราส์ เป็นวิศวกร ฝากฝีมือบันทึกไว้บนสะพานโกลเดน เกทสีแดงอมส้มที่จะเปล่งแสงสะท้อนเมื่อยามแสงอาทิตย์ตกกระทบความงามทางด้านวิศวกรรมได้รับการยกย่องจากสมาคมวิศวกรพลเรือนอเมริกันให้เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

สะพานประตูทองทอดข้ามอ่าวทางตอนเหนือของเมืองซานฟรานฯ สร้างเป็นแบบโครงแขวน ตัวสะพานแขวนประกอบด้วยหอคอยเหล็กสองข้าง ข้างละ 215 เมตรใช้ลวดเคเบิลโยงทอดเป็นตัวดึงน้ำหนักสะพาน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 36 นิ้ว ข้างละ 2 เส้น แต่ละเส้นประกอบด้วยลวนเส้นเล็กๆ 17,664 เส้น รวม 4 เส้น ยาว 70,815 ไมล์ หรือหมุนรอบโลกได้ 3รอบ และยังมีเส้นลวดเล็กยึดสายโยงอีกรวม 27,572 เส้น มีช่วงกลางระหว่างตอม่อยาว 1.26 กิโลเมตร ส่วนริม 2 ฟาก ยาวข้างละ 34 เมตร รวมความยาวทั้งหมดประมาณ 7 กิโลเมตร ส่วนกว้าง 27 เมตร

เนื้อที่บนสะพานเปิดให้เดินรถไฟได้ 2 ช่องทาง และ 3 ช่องทางรถยนต์ โดยที่ตัวสะพานสามารถสามารถรับน้ำหนักได้ และไม่เกิดความเสียหาย เป็นสะพานแบบแขวนขนาดใหญ่และยาวมากที่สุดสะพานแรกในยุคนั้น สร้างแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 1937 เปิดใช้ครั้งแรกวันที่ 28 พฤษภาคม ปีเดียวกัน โดยประธานาธิบดีรูสเวลต์กดปุ่มทำพิธีเปิดมาจากกรุงวอชิงตัน ดีซี เป็นสัญญาณให้ผู้ใช้รถสัญจรไปมาบนสะพานได้ ทั้งนี้ เมื่อวันแรกนั้นมีประชาชนราว 200,000 คน มารวมตัวกัน